โรคตับ ลักษณะของโรคตับคือ ใบหน้าของผู้ป่วยที่เปลี่ยนไปได้แก่ ผิวหน้าคล้ำขึ้นทีละน้อย หรือหน้าคล้ำขึ้น และผิวหนังยืดหยุ่นได้ไม่ดี ความหมองคล้ำรอบดวงตาปรากฏชัด เส้นเลือดฝอยขยายเล็ก บนใบหน้าหรือจมูก อาการที่ใบหน้าของโรคตับ พบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคตับอักเสบเรื้อรัง และโรคตับแข็ง โดยเป็นหนึ่งในอาการทางคลินิกที่พบบ่อยของผู้ป่วยโรคตับ
การปรากฏตัวของโรคตับคือ ผิวหมองคล้ำ และหมองคล้ำบนใบหน้า ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคตับอักเสบบีเรื้อรัง และโรคตับแข็งในตับ โรคตับมีอาการอย่างไร ผิวมักจะเหลือง ซึ่งพบได้บ่อยในโรคตับอักเสบชนิดรุนแรง โดยมักเกิดจากการอุดตันของท่อน้ำดีภายในตับ
สีผิวและ ผิวดูคล้ำ โดยเฉพาะบริเวณเบ้าตา ทางการแพทย์เรียกว่า เม็ดสี เนื่องจากความผิดปกติ ของการเผาผลาญเมลานินที่เกิดจากโรคตับ ทำให้ผิวเหลืองและร่องลึกขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใหญ่เป็นมะเร็งตับอ่อน มะเร็งระบบน้ำดี หรือมะเร็งตับระยะแรก ฝ่ามือตับปรากฏขึ้น รอยแดงเป็นจุดๆ บนฝ่ามือ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อฝ่ามือขนาดใหญ่และเล็ก ทั้งสองข้างของฝ่ามือและปลายนิ้ว
ลักษณะจะซีดจางเมื่อกดทับ และปรากฏขึ้นอีกครั้ง เมื่อคลายการบีบอัด ส่วนใหญ่เป็นอาการเฉพาะ ของโรคตับอักเสบเฉียบพลันและเรื้อรัง หลอดเลือดที่เกิดจากการขยายตัวของกิ่งปลาย ของหลอดเลือดแดงเล็กๆ ของผิวหนัง เป็นเรื่องปกติที่ใบหน้า คอ หน้าอก หลังมือและไหล่ มีสีแดงสด และมีขนาดแตกต่างกันไป ตั้งแต่ขนาดของเข็มจนถึงหลายเซนติเมตร
เส้นเลือดขอดที่ช่องท้อง โดยคนปกติทั่วไป เพราะจะมองไม่เห็นเส้นเลือดที่ผนังหน้าท้อง หรือมองเห็นได้เพียงเลือนลาง เมื่อเกิดโรคตับ เนื่องจากความต้านทานที่เพิ่มขึ้นของหลอดเลือดดำในช่องท้อง อาจเกิดความแออัดของเส้นเลือดขอด ซึ่งอาจขยายออกไปตามแนวรอบสะดือ ในกรณีที่รุนแรง อาจมาพร้อมกับอาการบวมน้ำที่ผนังช่องท้องที่ผิวหนัง
สาเหตุของการเกิดโรคตับ ใบหน้าของคนที่ป่วยโรคตับ เป็นอาการที่บ่งบอกถึงโรคตับเรื้อรัง สาเหตุหลักของการเกิดโรคตับ ได้แก่ การดื่มสุราเป็นเวลานาน ทำให้ตับถูกทำลาย กลไกการเผาผลาญของตับได้รับผลกระทบ ส่งผลให้ร่างกายเกิดความผิดปกติของการเผาผลาญเม็ดสี ทำให้เกิดเม็ดสีบนผิวหน้ามนุษย์ ทำให้ผิวดูหมองคล้ำ ตามหลักทางการแพทย์ ตับมีหน้าที่เอาสารอาหารจากทางเดินอาหาร
คนที่ดื่มเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้ตับถูกทำลาย ใบหน้าที่เรียกว่า โรคตับ ซึ่งก็คือ การสำแดงที่ชัดเจนของความเสียหายของตับ เอสโตรเจนไม่สามารถเผาผลาญ และปิดใช้งานในตับได้ เนื่องจากความเสียหายของตับ การเพิ่มขึ้นของเอสโตรเจนในเลือด ทำให้เกิดการสะสมของเมลานิน การเพิ่มขึ้นของเนื้อหาของไทโรซิเนสในผิวหนัง จะเพิ่มปริมาณของไทโรซีนในเมลานิน
โรคตับอักเสบบีเรื้อรังบางชนิด ผู้ป่วยโรคตับแข็งในตับ มีการทำงานของต่อมหมวกไตในระดับต่ำ ซึ่งเพิ่มการหลั่งของผิวหนังตรงกลางของต่อมใต้สมอง ในเวลานี้ มีการสร้างเม็ดสีในริมฝีปาก และเยื่อเมือกในช่องปาก ควรตรวจโรคตับต้องทำอย่างไร การตรวจร่างกาย การซักประวัติทางการแพทย์ ทำให้เรามีความประทับใจเบื้องต้น เพื่อทำการเรียนรู้
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ โดยจะต้องสรุป และวิเคราะห์ รวมถึงวัตถุประสงค์ที่เรียนรู้จากประวัติทางการแพทย์ ต้องทำการตรวจร่างกาย ซึ่งนำเสนอความเป็นไปได้ ในการวินิจฉัยหลายประการ จากนั้นจึงพิจารณาเพิ่มเติมว่า การตรวจเพื่อยืนยันการวินิจฉัยเช่น การทำงานของตับ อัลตราซาวนด์ของตับ และการทดสอบอื่นๆ
วิธีรักษาโรคตับ การรักษาด้วยยาต้านไวรัส สำหรับการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง การรักษาด้วยยาต้านไวรัสเป็นมาตรการที่สำคัญ สำหรับผู้ที่ยังคงมีผลบวกต่อตัวบ่งชี้การจำลองแบบไวรัส ยาต้านไวรัส แต่ในปัจจุบัน การรักษาแบบนี้ไม่เป็นที่น่าพอใจ เพราะมันสามารถยับยั้งการจำลองแบบ ของการเกิดเชื้อไวรัสตับอักเสบได้ชั่วคราว หลังการใช้และการยับยั้งนี้ ซึ่งจะหายไปหลังจากหยุดยา
เพื่อให้ดัชนีที่ถูกยับยั้ง ยาบางชนิดมีผลช้ากว่า และใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล เนื่องจากผลการรักษาที่จำกัดของยาต้านไวรัสเฉพาะ เมื่อไวรัสเกิดขึ้น การรักษาโรคตับอักเสบบีเรื้อรัง โดยมักจะใช้ร่วมกับยา เพื่อปรับปรุงผลการรักษาด้วยยากระตุ้นภูมิคุ้มกัน เพราะมีส่วนช่วยต้านทานโรค เนื่องจากไทโมซิน มีส่วนช่วยในการเพิ่มการทำงานของเซลล์ โดยสามารถใช้ยาในปริมาณ 10 ถึง 20 มิลลิกรัมต่อวัน โดยฉีดเข้ากล้าม หรือฉีดเข้าเส้นเลือดดำ ระยะเวลาการรักษาคือ 2 ถึง 3 เดือน
เรื่องราวอื่นๆที่น่าสนใจคลิ๊ก !!!! ไดโนเสาร์ การสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์อธิบายข้อมูลได้ดังนี้