เจอดีเพราะปาก
เจอดีเพราะปาก วันนี้เรื่องราวหลอนของเราก็คือช่วงที่ไปเที่ยวจังหวัดเชียงรายเมื่อสองปีที่แล้ว เราไปเที่ยวเชียงรายกับเพื่อนอีกหนึ่งคน นั่งเครื่องบินไปช่วงเช้าและได้จองรถพร้อมคนขับเอาไว้ให้มารับที่สนามบินค่ะ รวมถึงให้พี่คนขับพาเที่ยวในจังหวัดเชียงรายไปด้วยเลย เราไปถึงเชียงรายประมาณเก้าโมงเช้า พี่คนขับก็พาเราไปไหว้พระที่วัดต่างต่าง ไปนั่งกินชาท่ามกลางต้นชาขั้นบันได เรียกว่าพี่เขาบริการดีค่ะ พาไปที่เที่ยวสวยสวยหลายที่ แล้วจังหวะตอนขับรถเราผ่านที่ถ้ำขุนน้ำนางนอนที่มีชื่อเสียงจากการมีนักเรียนเข้าไปติดในถ้ำกันหลายหลายคนนั่นแหละค่ะ
เพื่อนเราก็เลยอยากเข้าไปดูใกล้ใกล้ ซึ่งจริงจริงถ้ำนี้ไม่ได้อยู่ในแพลนที่จะแวะแต่ไหนไหนก็ผ่านแล้ว เราเลยบอกให้พี่คนขับพาเลี้ยวเข้าไป ตอนนั้นเป็นช่วงเกือบเย็นแล้วนะคะ บรรยากาศแบบไม่มีแดดแล้ว ทางเข้าตรงนั้นยังเปิดไม่หมดหมายความว่าเปิดให้เข้าไปได้แค่บางส่วนแต่ในถ้ำยังไม่เปิดให้เข้าไป รถก็เข้าไปได้ไม่สุดยังไม่ถึงถ้ำ เพื่อนเราก็บ่นตามประสาค่ะ ว่าทำไมไม่เปิดอุตส่ามาถึงที่แล้ว เสียเวลาโน้นนี่คือนางก็บ่นไปเรื่อยค่ะเรียกว่าเป็นเรื่องปกติ
พอก่อนกลับเพื่อนเราดันพูดว่าไม่มีใครมาเที่ยวที่นี่เลยขึ้นรถกลับเหอะ ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นเลย แล้วก็ขึ้นรถไป เราก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะเข้าใจว่านางก็ชวนเราขึ้นรถปกติ หลังจากนั้นพี่คนขับก็พาไปแวะวัดอีกสองที่ก่อนพาเราไปส่งที่โรงแรม โรงแรมที่เราพักเป็นโรงแรมธรรมดาเลยค่ะ อยู่ใจกลางเมืองไม่ไกลจากถนนคนเดินมากนัก เพื่อนเราไม่รู้เป็นอะไรหลังจากขึ้นรถมาจากถ้ำก็บ่นเรื่องถ้ำไม่หยุด ขอไม่บอกว่าพูดอะไรบ้างนะคะแต่เป็นเรื่องแนวว่า ไม่ได้ดูไม่ได้เห็นอะไรเลย เสียเวลา ไม่สวยเลยมองจากข้างนอกอะไรแบบนี้อะค่ะ แล้วก็พูดเรื่องที่มีคนไปติดถ้ำว่าน้ำขึ้นน้ำเข้าถ้ำทำไมไม่รู้จักจัดการ
เอาเป็นว่าพอไม่ได้เข้าไปก็บ่นทุกเรื่องที่เกี่ยวกับถ้ำค่ะ เราเข้าไปที่พักอาบน้ำแล้วชวนเพื่อนออกไปเดินถนนคนเดิน แต่เพื่อนเราบอกไม่ไปเหมือนจะมีไข้ ฝากเราซื้ออะไรมากินก็ได้ เราก็โอเคค่ะเพราะเราขอบไปเห็นอะไรข้างนอก เราเดินไปถึงตลาดก็เดินเล่นดูของไปเรื่อย แล้วเพื่อนเราก็โทรมาถามว่าจะกลับโรงแรมรึยังนางกลัว นางบอกว่าเหมือนมีคนอยู่ด้วยหลายคนได้ยินเสียงก๊อกแก๊กตลอด แราเลยว่าอาจจะเป็นเสียงห้องข้างข้างเขาทำอะไรก็ได้อย่าคิดมาก ตอนนั้นเราแวะกินข้าวที่ตลาดคนเดินแล้วก็ซื้อขนมจีนน้ำเงี้ยวไปฝากเพื่อนเราค่ะ
ตอนเรากลับโรงแรมก็ประมาณสามทุ่มนิดนิดได้ค่ะ เราโทรศัพท์หาเพื่อนเพื่อจะให้เตรียมมาเปิดประตูห้องแต่ก็ไม่รับสาย เราเลยคิดว่าเพื่อนเราคงหลับไปแล้ว แต่พอเราลงรถสามล้อตรงหน้าโรงแรมเดินเข้าไปกลับเจอเพื่อนเรานั่งอยู่ที่ล็อบบี้โรงแรม เราถามว่าทำไมออกมาตรงนี้โทรศัพท์ก็ไม่รับ เพื่อนเราว่าทนอยู่ในห้องไม่ได้เหมือนมีคนอยู่ด้วยก่อนออกมาข้างนอกอยู่ดีดีประตูห้องน้ำก็ปิดเอง เพื่อนเราตกใจมากวิ่งออกมาจนไม่ได้หยิบโทรศัพท์หรือกระเป๋าอะไรออกมาเลยค่ะ
เราพาเพื่อนเข้าไปในห้องพอเปิดเข้าไปโทรทัศน์กับแอร์ยังเปิดทิ้งไว้อยู่เลยค่ะ เราเอาขนมจีนให้เพื่อนเรากินแล้วเราก็เข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ เพื่อนเราถามว่ามีอะไรในห้องน้ำมั้ยเพราะประตูปิดเองดังมาก เราก็ว่าไม่เห็นอะไรแล้วยังเดินไปพาเพื่อนเรามาดู นางก็มองอย่าง งงๆค่ะ สักพักเราก็ขึ้นไปนอนบนเตียง เตียงที่ห้องคือเป็นแบบเตียงคู่ค่ะ คือเรานอนคนละเตียงกับเพื่อนเรา เพื่อนเรานอนฝั่งติดกับห้องน้ำ ส่วนเรานอนทางระเบียงผ้าม่าน เรานอนเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยเปื่อย หันไปดูอีกทีคือเพื่อนเรานอนหลับแล้ว เวลาห่างไปสักพักหนึ่งเราได้ยินเสียงเพื่อนเราพูดออกมาเสียงดังมากว่า รู้แล้ว รู้แล้ว ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษ
พูดอยู่แบบนี้หลายรอบเราพยายามเรียกแต่ก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้ จนตอนที่เห็นเพื่อนเราดิ้นเหมือนคนจมน้ำอะค่ะ เราเลยลุกขึ้นไปที่เตียงของเพื่อนแล้วเขย่าตัวให้ตื่น เพื่อนเรายังไม่รู้สึกตัวยังดิ้นเหมือนคนจมน้ำจนเราเขย่าตัวแรงขึ้นและเรียกเสียงดัง เพื่อนเราลืมตาขึ้นมาแล้วบอกว่า กลับไป กลับไป กลัวแล้ว เราก็ตกใจค่ะ เดินไปเปิดไฟสว่างทั่วห้องเลย พอได้สติเพื่อนเราบอกว่าฝันเห็นถ้ำที่ไปมาวันนี้เดินเจ้าไปแล้วก็เจอผู้หญิงคนหนึ่งนำทาง เพื่อนเราเดินตามไปเรื่อยเรื่อยจนไปเจอห้องโถงใหญ่ในถ้ำ ผู้หญิงคนนั้นถามว่าที่นี่ไม่สวยเหรอ เพื่อนเราว่าไม่เห็นสวยเลยพามาทำไม
ผู้หญิงคนนั้นก็พาเข้าไปลึกเข้าไปอีกค่ะ ไปเจอหินงอกหินย้อย คือเพื่อนเราไม่ใช่สายเที่ยวถ้ำแนวนี้อะค่ะ เพื่อนเราก็บอกกับผู้หญิงคนนั้นว่าพามาทำไมไม่เห็นจะสวยเลย กลับดีกว่า แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ให้กลับค่ะบอกว่าออกไปแบบเสียงดังใส่เพื่อนเรา เพื่อนเราเล่าอีกว่าผู้หญิงคนนั้นมีหน้าตาโกธรมากมากแล้วก็กลายเป็นงูตัวใหญ่ เพื่อนเราตะโกนว่ากลับไปกลับไป กลัวแล้ว แล้วเหมือนมีน้ำเข้ามาในถ้ำเยอะมากมากค่ะ เพื่อนเราว่ายน้ำไม่เป็นแล้วรู้สึกเหมือนกำลังจมน้ำเลยตะเกียกตะกายสุดสุด เราคิดภาพตอนเห็นเพื่อนเรานอนอยู่บนเตียงค่อนข้างตรงกับที่เพื่อนเราเล่าเลยค่ะ แบบกำลังหนีและว่ายน้ำดิ้นรนเอาตัวรอด
เราบอกว่าคงคิดมากไปนั่นแหละเพราะพูดเรื่องถ้ำหลายรอบเราบอกให้เพื่อนไปนอนต่อ เพื่อนเราเลยเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วอยู่ดีดีก็ร้องลั่นห้องน้ำ เราถามว่าเกิดอะไรขึ้นเพื่อนเราบอกว่าเห็นผู้หญิงในฝันอยู่ในกระจกก็เลยร้องตกใจพอหันไปดูอีกทีก็ไม่มีแล้ว บอกตรงตรงค่ะตอนนั้นเราก็ใจคอไม่ดีคิดว่าเพื่อนเราคงเจอดีเข้าแล้วอาจเป็นเพราะพูดอะไรไม่คิดเราเลยบอกว่าเดี๋ยวจะพาไปทำบุญในวันพรุ่งนี้เพื่อนเราพูดขึ้นมาว่าพรุ่งนี้พากลับไปที่ถ้ำหน่อย อยากไปขอโทษ
พอวันรุ่งขึ้น เราก็เลยเล่าเรื่องราวนี้ให้กับพี่คนที่ขับรถฟังพี่แกก็เลยรีบพากลับไปที่ถ้ำเตรียมพวงมาลัยดอกไม้เพื่อไปขอขมาเพื่อนเราก็ได้แต่กล่าวขอโทษไม่ได้ตั้งใจและพวกเราก็เดินทางกลับกรุงเทพค่ะเรียกว่าทริปนั้นเป็นทริปสายบุญและก็ยังจำฟังใจทุกวันนี้เพื่อนเรายังเล่าเรื่องนี้อยู่เลยค่ะคงจะฝังใจมากๆ อยากฝากทุกคนไว้นะคะไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนก็ควรให้เกียรติสถานที่